เพลง

ซี่รี่ส์หรือละครเป็นอะไรที่ได้รับความนิยมตั้งแต่สมัยอดีตช่วงแรกของรายการโทรทัศน์ที่อยู่คู่กับมาโดยตลอด มีหลากหลายเรื่องที่มีที่งความสนุกและความเศร้า อิ่มเอม หลากความรู้สึกที่มาพร้อมกับเรื่องให้คนดูช่วยกันลุ้นไปกับตัวละครนั้นเองครับ แต่จะมีสักกี่ท่านที่มีความรู้เกี่ยวกับละครและที่มาว่าเป็นมาจากไหนเป็นอย่างไร? บทความนี้จะพาไปหาคำตอบกันครับ

ความหมายของละคร

        ละคร หมายถึง ศิลปะการแสดงที่เกิดขึ้นจากการนำภาพ ประสบการณ์ และจินตนาการของมนุษย์มาผูกเป็นเรื่องราว แล้วนำเสนอแก่ผู้ชม โดยมีผู้แสดงเป็นสื่อความหมาย นอกจากนี้ ยังนักปราชญ์ นักการศึกษา ท่านผู้รู้ ได้ให้นิยามความหมายของละครแตกต่างกันออกไป

ประเภทของละคร ละครแบ่งออกเป็น 2 ประเภท

●ละครแนวเหมือนจริง คือ ละครที่ให้ภาพชีวิตความเป็นจริงสะท้อนชีวิตในสังคมและความเป็นอยู่ของชุมชนออกมาเป็นเรื่องราว ดังคำกล่าวที่ว่า “ละครคือชีวิต”

●ละครแนวไม่เหมือนจริง คือ ละครที่ให้ภาพของการแสดงหลุดออกไปจากชีวิตประจำวัน โดยยึดคนดูเป็นเป้าหมายสำคัญ เพื่อให้คนดูเกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน ตื่นเต้น และผู้ดูจะเกิดความรู้สึกว่าสิ่งที่ปรากฏไม่ใช่ชีวิตจริง เช่น การแสดงโขน ละครรำ ซึ่งฉากและเครื่องแต่งกายจะหรูหราเกินจริงแต่ก็สวยงาม ประณีตวิจิตรบรรจง มีเสน่ห์ประทับใจคนดู

องค์ประกอบของละคร 4 ประการ

ต้องมีเรื่อง ตัวละครเจรจาไปตามเนื้อเรื่องของบทละครผู้ประพันธ์บทจะต้องมีความสามารถในการบรรยายบุคลิกลักษณะและนิสัยของตัวละครได้ชัดเจน                 

ต้องมีเนื้อหาสรุป เช่น ต้องการให้เกิดความรักชาติ ความกตัญญูกตเวที หรือมุ่งสอนจริยธรรม

นิสัยตัวละคร บุคลิกลักษณะ นิสัยของตัวละครต้องตรงกับเนื้อหาสรุป

บรรยากาศสภาพแวดล้อม หมายถึง การสร้างบรรยากาศรอบ ๆ ที่เกี่ยวกับตัวละคร เพื่อช่วยให้ผู้ชมละครมีความรู้สึกคล้อยตามไปกับละคร

ข้อดีของการดูละคร

1. คลายเครียดได้ ข้อนี้เราจะเห็นได้ชัดที่สุด เวลาที่กลับบ้านมาเหนื่อยๆ การได้นั่งชมทีวีกับคนในครอบครัว และเป็นละครเรื่องที่ชอบด้วย ก็จะช่วยให้คุณหายเครียดจากงานหรือเรื่องต่างๆ ได้ดีทีเดียว โดยเฉพาะละครที่เป็นละครฮาๆ สนุกสนาน

2. ให้แง่คิด นอกจากจะได้ความสนุก ละครต่างๆ ล้วนแต่แฝงแง่คิดเอาไว้ในนั้นทั้งสิ้น หากเราชมด้วยวิจารณญาณ ไม่เอาเพียงแค่ความสนุกอย่างเดียว และละครส่วนใหญ่ ก็ล้วนสร้างมาจากภาพสะท้อนของสังคมทั้งสิ้น และข้อคิดที่ได้จากละคร เราก็สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวันของเราได้

3. เพื่อชี้นำสังคม เมื่อละครแสดงให้เห็นภาพลักษณ์ของสังคม ก็จะเป็นการผลักดันให้สังคมเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น หรือเรื่องไหนที่เกี่ยวกับหน่วยงานนั้นๆ ก็อาจจะได้รับการเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้

4. แสดงให้เห็นวัฒนธรรม วัฒนธรรมของบ้านเรามีหลายอย่างที่ทุกคนไม่เคยเห็นมาก่อน และบางอย่างก็อาจจะสูญหายไป ซึ่งละครก็จะแสดงให้เห็น และเป็นการช่วยสืบทอดให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ และทำนุบำรุงต่อไป

ข้อเสียของการดูละคร

สียเวลาโดยใช่เหตุ เพราะละครในแต่ละเรื่อง ไม่ได้เล่นวันเดียวจบ บางเรื่องใช้เวลาหลายเดือน และแต่ละวันก็จะจอบในแต่ละตอนก็ใช้เวลาหลายชั่วโมง ทำให้บางคนต้องทิ้งงานที่ทำเพื่อมาชม ทำให้เป็นการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับการชมละคร

เกิดการเลียนแบบ พฤติกรรมบางอย่างของตัวละคร อาจจะทำให้ผู้ชมเกิดการเลียนแบบพฤติกรรมในเนื้อเรื่องได้ เช่น การแย่งแฟนแย่งคนรักของคนอื่น การตบตี การใช้กำลัง โดยเฉพาะเด็กที่ไม่มีผู้ใหญ่แนะนำให้รู้ว่าควรจะดูเรื่องไหน ถือว่าเป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับเด็กๆ มาก เพราะเด็กอาจจะเอาพฤติกรรมเหล่านั้นไปลองทำกับเพื่อนกับคนอื่นได้

และนี้คือ “ความหมายประเภทและองค์ประกอบของละคร” ที่เราได้นำมาฝากทุกๆ ท่านกัน หวังว่าจะช่วยเพิ่มความรู้เกี่ยวกับละครให้กับทุกๆ ท่านนะครับ